แท่งเกลียวถูกนำมาใช้มานานหลายศตวรรษในการใช้งานต่างๆ รวมถึงการก่อสร้าง การผลิต และวิศวกรรมเครื่องกล แนวคิดของการร้อยเกลียวแท่งเพื่อสร้างกลไกคล้ายสกรูนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
การใช้แท่งเกลียวที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งที่รู้จักมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เมื่อเลโอนาร์โด ดา วินชี สร้างเครื่องจักรที่ใช้แท่งเกลียวเพื่อเคลื่อนตุ้มน้ำหนักขึ้นและลง การออกแบบตัวเครื่องคล้ายกับแม่แรงสกรูในยุคปัจจุบันซึ่งใช้ในการยกของหนัก
ในศตวรรษที่ 18 เบนจามิน แฟรงคลินได้รับการยกย่องในการประดิษฐ์เครื่องตัดก้านเกลียวเครื่องแรก ซึ่งทำให้การผลิตแท่งเกลียวในปริมาณมากทำได้ง่ายขึ้น นวัตกรรมนี้ช่วยกระตุ้นการเติบโตของการผลิตและอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกา
แกนเกลียวสมัยใหม่ที่เรารู้จักในปัจจุบันได้รับการพัฒนาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ วิศวกรเริ่มทดลองกับตัวยึดและแท่งเกลียวประเภทต่างๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์และระบบกลไกอื่นๆ
ปัจจุบัน แกนเกลียวมักถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานก่อสร้าง งานไม้ ไปจนถึงงานไฟฟ้าและประปา แกนเกลียวนั้นมีความยาว ตรง และค่อนข้างหนา โดยมีการตัดเกลียวเข้ากับพื้นผิว ทำให้สามารถขันน็อตและตัวยึดเกลียวอื่นๆ ได้ เมาเข้ากับพวกเขา โดยทั่วไปมักทำจากเหล็ก แต่ก็สามารถทำจากวัสดุอื่นได้ เช่น สแตนเลส ทองเหลือง หรืออลูมิเนียม แท่งเกลียวถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่:
การใช้งานด้านโครงสร้าง: แท่งเกลียวมักใช้ในงานโครงสร้างเพื่อเชื่อมต่อส่วนประกอบสองชิ้นขึ้นไปเข้าด้วยกัน สามารถใช้เป็นตัวค้ำยันหรือส่วนรับแรงตึงเพื่อรองรับน้ำหนักหรือเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง
การใช้งานทางกล: แท่งเกลียวสามารถใช้ในการใช้งานทางกล เช่น ในการประกอบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ สามารถใช้ยึดชิ้นส่วนให้เข้าที่ ปรับตำแหน่งของส่วนประกอบ หรือเพื่อยึดสิ่งของต่างๆ
การใช้งานทางไฟฟ้า: แท่งเกลียวสามารถใช้ในงานไฟฟ้าเพื่อรองรับท่อร้อยสายหรือถาดสายเคเบิล นอกจากนี้ยังใช้แขวนอุปกรณ์หรืออุปกรณ์จากเพดานได้อีกด้วย
การใช้งานประปา: แท่งเกลียวสามารถใช้ในงานประปาเพื่อรองรับท่อหรือเพื่อยึดอุปกรณ์ติดตั้ง
แท่งเกลียวมีความยาว เส้นผ่านศูนย์กลาง และระยะพิตช์เกลียวที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถตัดตามความยาวเฉพาะหรือเกลียวตามระยะพิทช์เฉพาะได้หากต้องการ